บันทึกอนุทิน
วิชา การบริหารสถานศึกษาปฐมวัย( Pre-School Administration )
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์กฤตธ์ตฤณน์ ตุ๊หมาด
วัน/เดือน/ปี : 01 กุมภาพันธ์ 2560
เรียนครั้งที่ 4 เวลาเรียน 12:30 - 15:30
กลุ่ม 102 วันพุธ ห้องเรียน 34-501
นำเสนอบทความ
เลขที่ 4 นางสาววีรดา ตรีมิ่งมิตร
เลขที่ 7 นางสาวภูษณิศา กาบเครือ
เลขที่8 นางสาวภณิชชา กาบเครือ
เลขที่9 นางสาวธนทร ศรีหินกอง
นำเสนองาน ในหัวข้อ "ประเภทของสถานศึกษา"
กลุ่มที่ 1 โรงเรียนอนุบาล
โรงเรียนอนุบาล คือ
โรงเรียนที่เปิดสอนในระดับอนุบาล
ซึ่งอาจจะเป็นโรงเรียนของเอกชนหรือของรัฐก็ได้ บางโรงเรียนอาจเปิดสอนระดับประถมศึกษาร่วมด้วย
หรืออาจจะสอนถึงระดับมัธยมศึกษาก็ได้
เกณฑ์การรับเด็กเข้าเรียนโรงเรียนอนุบาล
มาตรา ๓๐
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖
และกฎกระทรวงว่าด้วยการแบ่งระดับและประเภทของการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.๒๕๔๖ ข้อ ๑
(๑) สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้กาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุเด็กเพื่อเข้ารับการศึกษา
ระดับก่อนประถมศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
สังกัดสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ
1
การรับเด็กเพื่อเข้ารับการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
สังกัดสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้รับเด็กที่มีอายุไม่น้อยกว่า ๔
ปีบริบูรณ์
ข้อ
2
การนับอายุเด็กเพื่อเข้ารับการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
สังกัดสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ให้นับตั้งแต่วันที่เด็กเกิดไปจนถึงวันแรกของการเปิดภาคเรียนที่ ๑
ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ. ๒๕๓๘
และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓
ตัวอย่างโรงเรียน
กลุ่มที่ 2 ศูนย์พัฒนาเด็ดเล็กก่อนเกณฑ์ของสถาบันศาสนา
กลุ่มที่ 3 เนอร์เซอรี่
กลุ่มที่ 4 ศูนย์เลี้ยงเล็ก
ศูนย์เลี้ยงเด็ก
การจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กในสถานประกอบกิจการและชุมชนภายใต้การบูรณาการความร่วมมือกับ 5 กระทรวง ประกอบด้วย
- กระทรวงแรงงาน
- กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
- กระทรวงมหาดไทย
- กระทรวงศึกษาธิการ
- กระทรวงสาธารณสุข
- กระทรวงแรงงาน
การบริหารจัดการ
1. จัดให้มีบุคลากรที่จำเป็นในการดำเนินงานรับเลี้ยงและพัฒนาเด็ก เช่น
เจ้าของกิจการ ผู้ดำเนินการ พยาบาล สถานพยาบาล ผู้เลี้ยงดูเด็ก
ผู้จัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก ผู้ประกอบอาหาร ผู้ทำความสะอาด
เป็นต้น โดยเจ้าหน้าที่คนหนึ่งๆ อาจทำหน้าที่เกินกว่าหนึ่งประการได้แต่ต้องมีจำนวน
ที่เหมาะสมกับจำนวนเด็ก
หรืออาจใช้ลูกจ้างในสถานประกอบกิจการทำหน้าที่ได้ตามความเหมาะสม
2.
คุณสมบัติของผู้เลี้ยงดูเด็กในศูนย์เลี้ยงเด็กในสถานประกอบกิจการและชุมชน
- ต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 18 ปีบริบูรณ์
-
มีสุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจต้องผ่านการตรวจสุขภาพก่อนปฏิบัติงาน
- มีคุณวุฒิการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และต้องผ่านการฝึกอบรม
เรื่องการ
อบรมเลี้ยงดูและพัฒนาเด็ก
3. อัตราส่วนระหว่างผู้เลี้ยงดูเด็กกับเด็ก
- เด็กอายุแรกเกิด – 2 ปี อัตราส่วน 1:3
- เด็กอายุ 2 – 3 ปี อัตราส่วน 1:8
- เด็กอายุ 3 – 4 ปี อัตราส่วน 1:12
- เด็กอายุ 4 – 6 ปี อัตราส่วน 1:20
4.
การขออนุญาตจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กที่ให้บริการรับเลี้ยงเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี
ที่มีเด็กจำนวน 6 คนขึ้นไป ต้องได้รับอนุญาตให้จัดตั้ง
การขออนุญาตจัดตั้งให้ติดต่อขออนุญาตจัดตั้ง
ตัวอย่าง
งานบริหารของศูนย์ฯ
- การเลี้ยงดู เตรียมความพร้อมด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจสังคม
และสติปัญญา ให้เด็กมีพัฒนาการที่เหมาะสมกับวัย และศักยภาพของเด็ก
- ตรวจประเมินการเจริญเติบโต
รวมทั้ง พัฒนาการของเด็กอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ
- ให้คำแนะนำในด้านสุขภาพ
การป้องกันโรค การดูแล และ แนวทางในการเลี้ยงดูบุตรแก่บิดา มารดา
- ให้คำแนะนำแก่มารดาที่มีปัญหาเกี่ยวกับการให้นมบุตร
การพัฒนาการและสุขภาพเด็ก โดยผู้เชี่ยวชาญจากคลินิกเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
คลินิกกระตุ้นพัฒนาการและกุมารแพทย์ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
- บริการอาหารเช้า
อาหารกลางวัน พร้อมอาหารว่างมื้อบ่าย โดยมีโภชนากร จากฝ่ายโภชนาการของโรงพยาบาลศิริราช เป็นผู้จัดเมนูอาหารร่วมกับพยาบาลและคณะกรรมการศูนย์ฯ
หลักเกณฑ์การรับเด็ก
- รับเลี้ยงดูเด็กปกติตั้งแต่แรกเกิด ถึง 3 ปี
-
เป็นบุตรบุคลากรภายในคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
อัตรากำลังพี่เลี้ยงเด็ก
- เด็ก อายุต่ำกว่า 1 ปี สัดส่วนพี่เลี้ยงเด็ก 1 คนต่อเด็ก
3 คน
- เด็ก อายุ 2 –
3 ปี สัดส่วนพี่เลี้ยงเด็ก 1 คนต่อเด็ก 5-7 คน
กลุ่มที่ 5 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน
กลุ่มที่ 6 ศูนย์เด็กเล็ก
กลุ่มที่ 7 โรงเรียนเตรียมประถม
ชั้นเตรียมประถมคืออะไร
- ชั้นเตรียมประถม ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ระหว่างโรงเรียนอนุบาลกับโรงเรียนประถม
- ตลอดระยะเวลาเรียนของเด็ก ซึ่งอาจจะเริ่มตั้งแต่ตอนที่เด็กอายุครบ ๑ ขวบ ไปจนถึงจบชั้นมัธยมปลาย จะถูกกำหนด โดยหลักสูตรการศึกษา ซึ่งโรงเรียนอนุบาล โรงเรียนการศึกษาขั้นพื้นฐาน และโรงเรียนมัธยมปลาย ต่างก็มีหลักสูตรการศึกษาของตัวเองโดยเฉพาะ โดยชั้นเตรียมประถมจะใช้หลักสูตรการศึกษาเดียวกับโรงเรียนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่ง เมืองความรู้แห่งเฮลซิงบอร์ย มอสิ่งนั้นว่าเป็นการติดตามพัฒนาการตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่
- ชั้นเตรียมประถมจะเป็นการศึกษาโดยสมัครใจ แต่เด็กที่มีอายุหกปีในสวีเดนส่วนมาก จะเข้าเรียนในชั้นนี้ เทศบาลจะมีหน้าที่ในการเปิดรับ และจัดการเรียนการสอนในชั้นเตรียมประถมให้แก่เด็ก
ใครมีสิทธิ์เข้าเรียนได้บ้าง
- เด็ก ๆ มีสิทธิ์เข้าเรียนชั้นเตรียมประถมเมื่ออายุ 6 ปี ซึ่งเปิดรับเข้าเรียนตามความสมัครใจ และเด็กส่วนมากจะเข้าเรียนในชั้นนี้ เด็กมีสิทธิ์เลือกได้ว่าจะเรียนชั้นเตรียมประถมในโรงเรียนอนุบาลเดิม หรือสถานอบรมดูแลเด็กสำหรับกลุ่มอายุ 6 ปี
- โดยส่วนใหญ่ชั้นเตรียมประถม จะจัดอยู่ในหรืออยู่ใกล้กับโรงเรียน ที่นักเรียนจะเข้ารับการศึกษาขั้นพื้นฐานในชั้นปีที่ 1
- เด็กทุกคนมีสิทธิ์เข้าเรียนในชั้นเตรียมประถม แต่กฎหมายไม่ได้บังคับว่าต้องเรียนชั้นนี้
ชั้นเตรียมประถมมีลักษณะเป็นอย่างไร
- ชั้นเตรียมประถม เป็นการศึกษาเชื่อมต่อจากชั้นอนุบาลไปสู่การศึกษาภาคบังคับหรือขั้นพื้นฐาน โดยจะผสมผสานรูปแบบการดำเนินงานและวิธีการ ระหว่างโรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนขั้นพื้นฐานเข้าด้วยกัน
- กิจกรรมการเรียนการสอนจะใช้เวลาวันละประมาณสามชั่วโมง ช่วงที่เหลือนักเรียนส่วนใหญ่จะเข้าศูนย์นันทนาการ หรือสถานรับอบรมดูแลเด็ก
- เทศบาลมีหน้าที่ จัดการเรียนการสอนชั้นเตรียมประถม และรับนักเรียนเข้าเรียนในชั้นนี้ ชั้นเตรียมประถมที่ดำเนินการโดยโรงเรียนเอกชน จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แทนชั้นเตรียมประถมในสังกัดเทศบาล
- ชั้นเตรียมประถม จะเปิดให้เข้าเรียนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
- ในชั้นเตรียมประถมเราไม่ได้คาดหวังว่านักเรียนต้องผ่านเกณฑ์ความรู้ในวิชาต่างๆ แม้ว่าเราจะเริ่มฝึกฝนเรื่องต่างๆ ทีละ น้อย แต่ในชั้นนี้นักเรียนไม่จำเป็นต้องอ่านได้ เขียนได้ หรือนับเลขได้ เรารู้ดีว่าเมื่อถึงเวลาเด็กก็จะเป็นเอง เพราะในวัยนี้ เด็กกำลังอยากรู้อยากเห็น และอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่แล้ว
หนังสือหรับหรับชั้นเตรียมประถม
ตัวอย่างโรงเรียน
โรงเรียนดรุณพัฒน์ ถ.ประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว
เขตจตุจักร กรุงเทพ 10900
แนวทางการสอนระดับเตรียมประถม และประถมศึกษา
1.
นักเรียนมีเวลาเรียนเฉลี่ยวันละ 6 ช.ม. นักเรียน G.1
– G.3 สอนโดยครูประจำชั้นชาวต่างประเทศ ทุกสาระ
ยกเว้น วิชาศิลปะ ภาษาไทย สังคมศึกษา
สอนโดยครูประจำชั้นคนไทยและเน้นกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติและการบูรณาการ
2.
นักเรียนทุกคนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 8 กลุ่มสาระ สอนเป็นภาษาอังกฤษ 70
%โดยประมาณและภาษาไทย 30% โดยประมาณ และเน้นภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารเป็นสำคัญ
3.
นักเรียนสามารถเลือกเรียนวิชาที่ตอบสนองความสามารถตามความถนัดและความสนใจในคาบเรียนที่
7 และ 8 Club พร้อมด้วยการเสริมภาษาจีนสัปดาห์ละ
1 คาบ
4.
นักเรียนเข้าร่วมและปฏิบัติกิจกรรมที่เหมาะสมร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข
5.
เมื่อเรียนจบแต่ละช่วงชั้น นักเรียนมีคุณภาพด้านความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม
ตามมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น และสอบ NT เมื่อจบช่วงชั้นที่1
กลุ่มที่ 8 สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
คือ
สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย หรือ
โรงเรียนเด็กเล็ก เปิดขึ้นเพื่อรับเด็กอายุโดยประมาณ 1ขวบครึ่ง ถึง 3 ขวบ
ทำหน้าที่ในการดูแล ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคมและภาษา ช่วงเวลาเปิดเรียนอาจเป็นเรียนเต็มวันหรือครึ่งวัน
แล้วแต่ความต้องการของผู้ปกครองหรือชุมชน
สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยดำเนินการโดย
รัฐบาล และหน่วยงานเอกชนที่มีอยู่หลายรูปแบบมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป เช่น
-สถานรับเลี้ยงเด็ก
-ศูนย์โภชนาการ
-ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
-โรงเรียนอนุบาล
หน่วยงานที่จัดคือ
-กรมพัฒนาชุมชน
-กรมอนามัย
-กรมอาชีวศึกษา
-สมาคมมูลนิธิต่าง ๆ
-กรมประชาสงเคราะห์ ซึ่งปัจจุบัน คือ
กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
ตามประกาศของคณะปฏิวัติ
ฉบับที่
294 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 ได้ให้ความหมายของคำว่า
- สถานรับเลี้ยงเด็ก หมายถึง สถานที่รับเลี้ยงเด็กซึ่งมีอายุไม่เกิน 7 ปีบริบูรณ์ และมีจำนวนเกิน 5 คน
- ซึ่งไม่เกี่ยวข้องเป็นญาติกับผู้เลี้ยง แต่ไม่รวมถึงสถานพยาบาล หรือโรงเรียนอนุบาล
ลักษณะของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
1.
แยกอิสระ
เป็นบริการตามบ้าน หรือสถานที่ราชการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นบริการแก่ชุมชน เช่น บ้าน วัด โรงพยาบาล วิทยาลัยพยาบาล โรงงาน เป็นต้น โรงเรียนเด็กเล็กประเภทนี้จะใช้ชื่อต่าง ๆ กัน เช่น ศูนย์ดูแลเด็กเล็ก ศูนย์พัฒนาเด็ก เป็นต้น
เป็นบริการตามบ้าน หรือสถานที่ราชการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นบริการแก่ชุมชน เช่น บ้าน วัด โรงพยาบาล วิทยาลัยพยาบาล โรงงาน เป็นต้น โรงเรียนเด็กเล็กประเภทนี้จะใช้ชื่อต่าง ๆ กัน เช่น ศูนย์ดูแลเด็กเล็ก ศูนย์พัฒนาเด็ก เป็นต้น
2.
ขึ้นอยู่กับโรงเรียนอนุบาล
มักจะเรียกว่า ชั้นเด็กเล็ก (Nursery Class) บางแห่งเรียกเตรียมอนุบาลโรงเรียนเด็กกลุ่มนี้รวมถึงโรงเรียนเด็กเล็กของมหาวิทยาลัยด้วย
3.
ขึ้นอยู่กับโรงเรียนประถมศึกษา
โรงเรียนประถมศึกษาบางแห่งจะจัดการศึกษา
ทุกระดับตั้งแต่ชั้นเด็กเล็ก ชั้นอนุบาลและชั้นประถมศึกษา ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเบ็ดเสร็จสำหรับการศึกษาปฐมวัย
ทุกระดับตั้งแต่ชั้นเด็กเล็ก ชั้นอนุบาลและชั้นประถมศึกษา ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเบ็ดเสร็จสำหรับการศึกษาปฐมวัย
ตัวอย่าง
ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย คณะพยาบาลศาสตร์
มหาวิยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
ประวัติความเป็นมาของศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย
เด็กเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าสูงสุดของประเทศ การเลี้ยงดูเด็กให้เจริญเติบโตและมีพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณที่สมบูรณ์เป็นสิ่งสำคัญ ที่ผู้เลี้ยงดูเด็กทุกคนจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญนี้ ประกอบกับในสังคมปัจจุบัน บิดา มารดาต้องช่วยกันรับผิดชอบในการหารายได้เพื่อความมั่นคงของครอบครัว ทำให้ภาระหน้าที่ในการเลี้ยงดูอยู่กับคนอื่น
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการจัดการศึกษาการเจริญเติบโต และพัฒนาการ การบริบาลเด็กปฐมวัยที่มีคุณภาพดีและการให้บริการวิชาการแก่สังคม ในการช่วยเหลือบิดา มารดา ท่านผู้ปกครองที่จะดูแลเด็กอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะเด็กตั้งแต่อายุ 6 สัปดาห์ ถึง 3 ปี ซึ่งเป็นวัยที่การเจริญเติบโตและพัฒนาการอย่างรวดเร็วเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต จึงได้จัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยขึ้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2542 เป็นต้นมา
เด็กเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าสูงสุดของประเทศ การเลี้ยงดูเด็กให้เจริญเติบโตและมีพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณที่สมบูรณ์เป็นสิ่งสำคัญ ที่ผู้เลี้ยงดูเด็กทุกคนจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญนี้ ประกอบกับในสังคมปัจจุบัน บิดา มารดาต้องช่วยกันรับผิดชอบในการหารายได้เพื่อความมั่นคงของครอบครัว ทำให้ภาระหน้าที่ในการเลี้ยงดูอยู่กับคนอื่น
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการจัดการศึกษาการเจริญเติบโต และพัฒนาการ การบริบาลเด็กปฐมวัยที่มีคุณภาพดีและการให้บริการวิชาการแก่สังคม ในการช่วยเหลือบิดา มารดา ท่านผู้ปกครองที่จะดูแลเด็กอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะเด็กตั้งแต่อายุ 6 สัปดาห์ ถึง 3 ปี ซึ่งเป็นวัยที่การเจริญเติบโตและพัฒนาการอย่างรวดเร็วเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต จึงได้จัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยขึ้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2542 เป็นต้นมา
วิสัยทัศน์
เป็นศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยต้นแบบ ให้บริการที่เป็นเลิศด้วยความรู้ คู่คุณธรรมบูรณาการนวัตกรรมสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมนำการวิจัยสู่การพัฒนา
พันธกิจ
1. บริการที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน
2. พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถ คุณธรรม จริยธรรม และทักษะที่จำเป็นในการดูแลเด็ก
3. พัฒนาคู่มือ หลักสูตรและโครงการสร้างการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ
4. เป็นศูนย์กลางการศึกษา การวิจัย และการบริการวิชาการแก่สังคม ในการสร้างเสริมสุขภาพเด็กปฐมวัย
5. บูรณาการวิจัยและนวัตกรรมสู่การปฏิบัติการและพัฒนาการเรียนการสอน
6. สร้างระบบการประกันคุณภาพ การปรับปรุงคุณภาพ และระบบการจัดการภายใน โดยมีการพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง
จัดสภาพแวดล้อม สร้างความแข็งแกร่งของครอบครัว เพื่อช่วยให้เด็กเกิดการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น